นโยบายความเป็นส่วนตัว

1. บทนำ


เพื่อให้เป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บริษัท
จี มิลเลี่ยน จำกัด (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “บริษัท”) ได้ตระหนักเห็นถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นอย่างยิ่ง บริษัทจึงได้ทำการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไว้ โดยการกำหนดนโยบายและแนวทางการปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎระเบียบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

2. คำนิยาม


“บริษัท” หมายถึง บริษัท
จี มิลเลี่ยน จำกัด และให้หมายความรวมถึง ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

“ผู้ใช้บริการ หรือ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ ผู้ใช้บริการเว็บไซต์ ลูกค้า พนักงาน บุคลากร ตัวแทน และบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมและการดำเนินงานต่าง ๆ ของบริษัท

“กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง และให้หมายความรวมถึงกฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใด ๆ ในอนาคต

3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม


บริษัทจะจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการของบริษัท สามารถตรวจสอบระยะเวลาการเก็บข้อมูลได้ในหัวข้อที่ 8 ซึ่งบริษัทจะเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามความยินยอมของท่านหรือในกรณีที่กฎหมายอนุญาตเท่านั้น ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะข้อมูลดังต่อไปนี้

   

 3.1. ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ได้แก่

 3.2. ข้อมูลสำหรับการติดต่อ ได้แก่

 3.3. ข้อมูลทางการเงิน ได้แก่

4. ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ บุคคลไร้ความสามารถ


บริษัทไม่มีความประสงค์ที่จะจัดเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี

บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ หรือบุคคลไร้ความสามารถ โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง ผู้พิทักษ์หรือผู้อนุบาลตามกฎหมายกำหนด แล้วแต่กรณี โดยผู้ใช้บริการรับรองและรับประกันว่าตนเองนั้นมีสิทธิ์และความสามารถทางกฎหมายในการใช้บริการผ่านแพลตฟอร์มของ บริษัท การที่บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ผู้เสมือนไร้ความสามารถ หรือผู้ไร้ความสามารถได้ใช้บริการจะถือว่าบุคคลดังกล่าวได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง ผู้พิทักษ์ หรือผู้อนุบาลตามกฎหมายแล้วทั้งนี้ หากเป็นกรณีที่บริษัทได้ทราบว่าบริษัทได้เก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ หรือบุคคลไร้ความสามารถโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง ผู้พิทักษ์หรือ  ผู้อนุบาลตามที่กฎหมายกำหนด แล้วแต่กรณี โดยมิได้เจตนา บริษัทจะดำเนินการลบข้อมูลส่วนบุคคลนั้นทันทีตามขั้นตอนของบริษัทที่ได้มีการระบุอยู่ในนโยบายฉบับนี้

5. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะทำการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการที่ได้รับจากช่องทางต่างๆ ดังต่อไปนี้

  5.1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากผู้ใช้บริการโดยตรง บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการเมื่อผู้ใช้บริการได้ดำเนินการ ดังนี้

 

  5.1.1. การสมัครใช้บริการกับบริษัท หรือขั้นตอนการยื่นคำร้องขอใช้สิทธิต่าง ๆ ที่ได้ระบุไว้กับบริษัท

  5.1.2. การทำแบบสอบถาม (survey) หรือ การโต้ตอบทาง จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ช่องทางการสื่อสารอื่นๆ ระหว่างบริษัทและผู้ใช้บริการทั้งนี้ตามความสมัครใจของผู้ใช้บริการ

  5.2. ข้อมูลที่ถูกจัดเก็บโดยอัตโนมัติ

บริษัทได้ทำการจัดเก็บข้อมูลบางส่วนเมื่อผู้ใช้บริการเข้าถึงเว็บไซต์ของบริษัท เข้าสู่ระบบ และ มีปฏิสัมพันธ์กับบริษัท อาทิเช่น เมื่อผู้ใช้บริการเข้าใช้เว็บไซต์ของบริษัท หรือ ผ่าน browser’s cookies ของผู้ใช้บริการ เป็นต้น บริษัทจะจัดเก็บข้อมูล IP Address ของผู้ใช้บริการ ตำแหน่งที่อยู่ และจัดเก็บข้อมูลตามการอนุญาตผ่านระบบอุปกรณ์ต่าง ๆ ของผู้ใช้บริการ

6. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล


บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  6.1. เพื่อการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการ หรือ สมาชิก

  6.2. เพื่อการรักษาความปลอดภัยเส้นทางการสื่อสารที่ราบรื่นสำหรับการส่งคำบอกกล่าวยืนยันความตั้งใจของผู้ใช้บริการและการจัดการข้อร้องเรียน

  6.3. เพื่อได้รับข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการให้บริการ เมื่อผู้ใช้บริการสมัครเป็นสมาชิกกับทางบริษัท

  6.4. เพื่อวัตถุประสงค์อื่นตามกฎหมาย หรือตามข้อตกลงที่เกี่ยวข้อง

7. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล


เมื่อได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการแล้ว บริษัทจะดำเนินการดังต่อไปนี้กับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ซึ่งการดำเนินการต่าง ๆ จะเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ในข้อ 6. หรือตามความยินยอมของผู้ใช้บริการ หรือตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด

  7.1. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการโดยบริษัท

  ในการเข้าถึงและใช้บริการของบริษัท

 

  ผู้ใช้บริการจำเป็นจะต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ทำให้สามารถระบุตัวตนของท่านได้เพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินการให้บริการกับผู้ใช้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการได้ในรูปแบบที่เป็นเอกสาร และ/หรือรูปภาพ และ/หรือรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์

  7.2. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ

  บริษัทอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการมาประมวลผลตามฐานการประมวลผลดังต่อไปนี้

  7.2.1. ประมวลผลตามฐานสัญญา (Contract)

  เมื่อท่านทำการสมัครใช้บริการ จำเป็นที่ท่านต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท เพื่อที่บริษัทจะได้นำข้อมูลดังกล่าวไปประมวลผลเกี่ยวกับการให้บริการและการดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ในข้อ 6.  หรือเพื่อติดต่อสื่อสารกับท่าน หรือเพื่อติดตาม หรือแจ้งผลประโยชน์ในการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับลักษณะรูปแบบการให้บริการ ตอบข้อซักถาม และแจ้งการเปลี่ยนแปลงต่างๆ อันเป็นกรณีตามฐานสัญญาตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

  7.2.2. ประมวลผลตามฐานความยินยอม (Consent)

  บริษัทอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการประมวลผลเพื่อการออกแบบหรือพัฒนาการให้บริการ หรือกิจกรรมทางการตลาดของบริษัท หรือเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรงเมื่อท่านให้ความยินยอม หากท่านประสงค์จะถอนความยินยอมในการประมวลผลดังกล่าว ท่านสามารถติดต่อบริษัทและแจ้งความประสงค์ได้ตามสิทธิที่ได้มีการระบุไว้ในข้อ 10

  7.2.3. ประมวลผลตามฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest)

  บริษัทอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปประมวลผลเพื่อการจัดการและการจัดทำรายงานภายในของบริษัท เพื่อพัฒนาระบบการรักษามาตรฐาน การให้บริการ รวมไปถึงการดำเนินการจัดการความเสี่ยงของบริษัท อันเป็นกรณีฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

  7.2.4. ประมวลผลตามฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)

  บริษัทอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปประมวลผลเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่กำกับดูแลการให้บริการของบริษัท ซึ่งอาจต้องอยู่ภายใต้บังคับกำหนดให้ส่งข้อมูล เช่น  ประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง ที่ให้อำนาจศาลสั่งให้คู่ความส่งเอกสารหรือข้อมูลในการพิจารณาคดี เป็นต้น อันเป็นกรณีฐานการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

  7.3. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอก

  โดยทั่วไป บริษัทจะไม่ทำการเปิดเผยและส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอกหรือหน่วยงานภายนอก เว้นแต่บริษัทจะได้รับความยินยอมจากท่านหรือเพื่อเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่ใช้บังคับ อย่างไรก็ตาม ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ในข้อ 6 กับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในข้อ 7 ระบุในนโยบายนี้ บริษัท อาจจำเป็นต้องเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนตัวของท่านบางส่วนเฉพาะเท่าที่จำเป็นแก่บุคคลภายนอก (ซึ่งอาจมีที่ตั้งหรือให้บริการอยู่ในประเทศไทยหรือต่างประเทศ) ดังต่อไปนี้

  7.3.1. บริษัทในเครือของบริษัท ในกรณีที่มีความจำเป็นในการประมวลผลข้อมูลภายใต้วัตถุประสงค์ที่ระบุในข้อ 6 ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เท่านั้น

  7.3.2. สถาบันการเงินอื่น ๆ ในกรณีที่กฎหมายกำหนดให้ต้องเปิดเผยข้อมูลเพื่อตรวจสอบธุรกรรมการเงินหรือตรวจสอบเส้นทางการเงินในกรณีที่ท่าน ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทางการเงิน หรือในกรณีที่มีเงินที่ต้องสงสัยเข้ามายังบัญชีของท่านจากอาชญากรรมทางการเงิน หรือในกรณีที่ท่านยินยอมให้บริษัท เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของท่านเพื่อดำเนินการให้เกิดผลสำเร็จของธุรกรรม

  7.3.3. ผู้รับจ้าง ตัวแทนและผู้ให้บริการของบริษัท (ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ผู้ให้บริการชำระเงิน ผู้ให้บริการยืนยันตัวตน ผู้ให้บริการวิเคราะห์ข้อมูล ผู้ให้บริการจัดเก็บข้อมูลคลาวด์ (Cloud) หรือศูนย์ข้อมูล (data center) ผู้ให้บริการเกี่ยวกับกิจกรรมทางการตลาดและสื่อโฆษณา สื่อมวลชนเพื่อการประชาสัมพันธ์  ผู้ให้บริการส่งอีเมลและข้อความ ผู้ให้บริการด้านสื่อสังคมออนไลน์ บริษัทรับจ้างจัดกิจกรรม ผู้ให้บริการระบบจัดการลูกค้าสัมพันธ์ และผู้ให้บริการพัฒนาและดูและระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีสารสนเทศ) ในกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อสนับสนุนธุรกิจของบริษัท และเพื่อเสนอและตอบสนองการใช้งานผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัท ทั้งนี้ บริษัท จะจัดทำข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด

  7.3.4. บุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่มีการซื้อ ขาย โอน ควบรวมกิจการของบริษัท การปรับโครงสร้างองค์กร ซึ่งจำเป็นต้องแบ่งปันข้อมูลเพื่อดำเนินการให้เกิดผลสำเร็จของการซื้อ ขาย โอน ควบรวมกิจการ หรือปรับโครงสร้างองค์กรนั้น

  7.3.5. หน่วยงานรัฐและหน่วยงานกำกับดูแลและบุคคลภายนอกที่กฎหมายกำหนด ในกรณีที่บริษัท มีหน้าที่ตามกฎหมาย หรือเมื่อกระบวนการทางกฎหมายบังคับให้เปิดเผยข้อมูลต่อศาล กรมบังคับคดี เจ้าพนักงาน เจ้าหน้าที่รัฐ หน่วยงานกำกับดูแล ตลอดจนที่ปรึกษากฎหมาย ตัวแทนโดยชอบธรรมของบริษัท หรือบุคคลอื่นใดในกรณีที่บริษัท เชื่อว่ามีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อปกป้องสิทธิของบริษัท สิทธิของบุคคลที่สาม หรือเพื่อความปลอดภัยของบุคคล

  7.4. การโอนหรือส่งต่อข้อมูลไปยังต่างประเทศ

บริษัทอาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปจัดเก็บและ/หรือประมวลผลตามที่ระบุในนโยบายฉบับนี้นอกประเทศไทย โดยบริษัทจะทำให้แน่ใจว่าข้อมูลของท่านจะถูกส่งไปยังประเทศปลายทางหรือหน่วยงานปลายทางที่มีมาตรฐานและนโยบายในการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวในระดับที่เพียงพอและเป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับ

8. ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลและขั้นตอนการทำลายข้อมูลส่วนบุคคล

8.1. ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะดำเนินการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ตามแต่ละประเภท ตามระยะเวลาที่กำหนดดังต่อไปนี้

ลำดับที่

รายการข้อมูลส่วนบุคคล

ระยะเวลาเก็บรักษา

1

บันทึกสัญญาการสมัครสมาชิกหรือถอนการเป็นสมาชิก

5 ปี

2

บันทึกการชำระเงินและการจัดหาสินค้า

5 ปี

3

บันทึกข้อร้องเรียนหรือข้อโต้แย้งของผู้ใช้บริการ

3 ปี

4

บันทึกข้อบ่งชี้และโฆษณา

6 เดือน

5

บันทึกการเข้าสู่ระบบ

3 เดือน

 

เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการที่ไม่ได้ใช้บริการเป็นเวลานานเกินกว่าหนึ่งปีหรือระยะเวลาที่กำหนดโดยกฎหมายอื่นๆ บริษัทจะดำเนินการแยกข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการกลุ่มดังกล่าวแยกออกต่างหากจากกลุ่มผู้ใช้บริการทั่วไป โดยบริษัทจะมีพื้นที่จัดเก็บไว้รองรับข้อมูลของผู้ใช้บริการกลุ่มดังกล่าวไว้โดยเฉพาะ เมื่อพ้นระยะเวลาจัดเก็บ หรือผู้ใช้บริการได้ดำเนินการยกเลิก ถอน หรือคัดค้าน หรือบริษัทไม่สามารถอ้างถึงข้อมูลในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการรายนั้นได้แล้ว บริษัทจะดำเนินการทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้

  8.2. ขั้นตอนการทำลายข้อมูลส่วนบุคคล

  8.2.1. การคัดแยกเก็บเอกสารก่อนการทำลาย

หลังจากพ้นระยะเวลาการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ได้ระบุไว้ในข้อ 8.1 แล้ว บริษัทจะมีการดำเนินการแยกข้อมูลส่วนบุคคลออกตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้กำหนดไว้ก่อนที่จะดำเนินการทำลาย ซึ่งหลังจากบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว บริษัทจะดำเนินการตามนโยบายภายในและเหตุผลในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  8.2.2. วิธีการทำลาย

9. สิทธิของเจ้าของข้อมูลและช่องทางการขอใช้สิทธิ


ผู้ใช้บริการมีสิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ตามที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ ดังต่อไปนี้

  1) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (Right to withdraw consent)

เจ้าของข้อมูลมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมกับบริษัทได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอยู่กับบริษัท

  2) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right of access)

เจ้าของข้อมูลมีสิทธิในการเข้าถึงและขอข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองและขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัทให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้

  3) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Right to rectification)  

เจ้าของข้อมูลมีสิทธิที่จะขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือ เพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์

  4) สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (Right to erasure)

เจ้าของข้อมูลมีสิทธิที่จะขอให้บริษัทลบข้อมูลของท่านด้วยเหตุบางประการได้ อาทิเช่น

   • เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลนั้นหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ  เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

   • เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

   • เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทำการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

  5) สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to restriction of processing)

เจ้าของข้อมูลมีสิทธิในการระงับการใช้ข้อมูล ส่วนบุคคลของตนเอง ด้วยเหตุบางประการได้ อาทิเช่น

   • เมื่อผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลไม่ดำเนินการตามคำร้องขอ ที่เจ้าของข้อมูลร้องขอให้ดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเขาใจผิด

  6) สิทธิในการเคลื่อนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (Right to data portability)

เจ้าของข้อมูลมีสิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองที่ให้ไว้กับบริษัทไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น หรือเพื่อตัวท่านเองด้วยเหตุบางประการได้

  7) สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Right to object)

เจ้าของข้อมูลมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้

หากท่านต้องการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุในส่วนนี้ ท่านสามารถทำได้โดยส่งคำร้องขอผ่านช่องทางดังต่อไปนี้

   • ส่งอีเมลถึงเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทที่ระบุในหัวข้อ “ช่องทางการติดต่อ” ของนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โดยใช้ชื่อเรื่องว่า “การขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หรือ

   • กรอก แบบฟอร์มการขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ก่อนดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิของท่าน บริษัท อาจมีความจำเป็นต้องขอข้อมูลของท่านเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการยืนยันตัวตน โดยถ้าเป็นในกรณีที่ได้มีการมอบหมายให้ผู้อื่นเป็นผู้ยื่นคำขอแทน บริษัท จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเพื่อการพิจารณาและดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น ถ้าหาก บริษัทรับคำขอไว้พิจารณา บริษัทจะพิจารณาผลลัพธ์ของคำขอของท่านและแจ้งให้ท่านทราบภายใน 30 วันหลังจากได้รับคำขอ

โปรดทราบว่า หากบริษัท มีเหตุจำเป็นต้องปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้นของท่านตามที่กฎหมายกำหนด บริษัทจะแจ้งเหตุแห่งการปฏิเสธให้ท่านได้ทราบอีกครั้งหนึ่ง

10. กิจกรรมทางการตลาดและการส่งเสริมการตลาด


ในระหว่างการใช้บริการ บริษัทจะส่งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับกิจกรรมทางการตลาดและส่งเสริมการตลาด ผลิตภัณฑ์ การให้บริการของบริษัท ที่บริษัทคาดว่าผู้ใช้บริการอาจมีความสนใจเพื่อประโยชน์ในการให้บริการอย่างเต็มประสิทธิภาพ หากผู้ใช้บริการได้ตกลงที่จะรับข้อมูลข่าวสารดังกล่าวจากบริษัท ผู้ใช้บริการมีสิทธืยกเลิกความยินยอมดังกล่าวได้ทุกเมื่อ โดยผู้ใช้บริการสามารถดำเนินการยกเลิกความยินยอมในการรับแจ้งข้อมูลข่าวสารได้

11. มาตรการการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทมีการวางระบบและมาตรการรักษาความปลอดภัยภายในบริษัท โดยเลือกใช้ระบบการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลให้มีกลไกที่ถูกออกแบบและเทคนิคที่เหมาะสม พร้อมทั้งมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากพนักงาน ลูกจ้าง และตัวแทนของบริษัท เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกนำไปใช้ เปิดเผย ทำลาย หรือเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตและสามารถกู้ข้อมูลกลับคืนในกรณีเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ขึ้น

12. การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล


พื่อให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติ และกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้เป็นครั้งคราวและตามที่กฎหมายอนุญาตได้ โดยบริษัทจะแจ้งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวบนเว็บไซต์ของบริษัท โดยนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่แก้ไขนี้จะมีผลใช้บังคับ ณ วันที่บริษัท ได้เผยแพร่บนเว็บไซต์ดังกล่าว บริษัท แนะนำให้ท่านตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นประจำ โดยการที่ท่านใช้บริการทางเว็บไซต์ของบริษัท ต่อไปหลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว จะถือว่าท่านยอมรับนโยบายที่เปลี่ยนแปลงนั้นโดยปริยาย

13. ช่องทางการติดต่อ


หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยและ/หรือโอนไปซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท หรือต้องการใช้สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ที่

บริษัท จี มิลเลี่ยน จำกัด

ที่อยู่สำนักงาน เลขที่ 89 ชั้น 8 ห้อง 801 อาคาร เอไอเอ แคปปิตอล เซ็นเตอร์ ถ.รัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400

dpo@gmillion.com